มาตรฐานและการจัดการคุณภาพของ โรงงานขนาดเล็ก สำหรับผลิตชิ้นส่วนยานยนต์

สิ่งที่จะช่วยให้ โรงงานขนาดเล็ก สำหรับผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของคุณได้เปรียบคู่แข่งคืออะไร?

โรงงานขนาดเล็ก สำหรับผลิตชิ้นส่วนยานยนต์

 


จากข้อมูลของ Krungthai COMPASS ที่ทำการสำรวจและวิจัยเกี่ยวกับทิศทางของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของประเทศไทย พบว่า ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกยานยนต์ที่สำคัญของโลก โดยคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกจะมีมูลค่ากว่า 2.95 ล้านล้านดอลลาร์ สหรัฐ หรือประมาณ 100 ล้านล้านบาท และจากรายงานของ International Organization of Motor Vehicle Manufacturers (OICA) ระบุว่า ในปี 2565 ยอดการผลิตรถยนต์จากโรงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และ โรงงานขนาดเล็ก ทั่วโลกมีมากกว่า 85 ล้านคัน และในช่วงเวลาที่โลกฟื้นตัวจากพิษเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจากโควิด ซึ่งในปี 2567 เป็นต้นไปจะยิ่งมีการเติบโตที่ดีมากขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เป็นหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยในปี 2565 สินค้ากลุ่มยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เป็นสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกอันดับหนึ่ง ของไทย และมีมูลค่าส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 12.3% ต่อ GDP


ขอบคุณภาพประกอบจาก krungthai.com

จึงไม่แปลกอะไร หากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านจะมีผู้ผลิตยานยนต์หลายๆ ค่ายทั่วโลก เริ่มเข้ามาตัดสินใจลงทุนซื้อ ขายโรงงานขนาดเล็ก และใหญ่ในประเทศไทยสำหรับเป็นฐานการผลิตอีกแห่งหนึ่ง และแน่นอนว่าการเลือกโรงงานสำหรับการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในแบรนด์ของตัวเองนั้น ก็จะต้องพิจารณาจากความเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับเพื่อการันตีคุณภาพการผลิต นั่นเอง ในบทความนี้ โครงการ ไพร์ม เอสเตท จึงรวบรวมเอามาตรฐานและการจัดการคุณภาพของโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ต่างๆ มีให้เจ้าของกิจกรรมรวมถึงผู้ที่กำลังจะลงทุนซื้อหรือสร้าง โรงงานขนาดเล็ก เพื่อรับผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ได้ศึกษาและนำไปปฏิบัติใช้กับธุรกิจของตนเอง เพื่อเป็นโอกาสในการเติบโตไปพร้อมกับทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้

มาตรฐาน IATF 16949 คืออะไร? ทำไม โรงงานขนาดเล็ก ผู้ผลิตยานยนต์จำเป็นต้องมี!

มาตรฐาน IATF 16949 : เป็นระบบจัดการคุณภาพเพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในการด้านการผลิตให้มีการสร้างระบบจัดการคุณภาพที่เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลก เพื่อทดแทนมาตรฐาน ISO/ TS 16949 (Technical Specification) ที่เป็นมาตรฐานระบบบริหารจัดการคุณภาพเพื่ออุตสาหกรรมรถยนต์ เป็นระบบที่ผสมผสานระหว่าง ระบบมาตรฐาน ISO 9001:2000 และ ISO/TS 16949 สำหรับการออกแบบ, พัฒนา, การผลิต, การติดตั้ง, การบริการของผลิตภัณฑ์และการบริการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งในปัจจุบันนี้ไม่ได้นำมาใช้อีกแล้ว

ในช่วงแรกของอุตสาหกรรมหรือ โรงงานขนาดเล็ก ที่ผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์นั้น นำไปใช้ปฏิบัติในช่วงแรก เราจะ มาตรฐานที่เรียกว่า QS-9000 ที่ถูกสร้างขึ้นจากประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็ได้พัฒนามาตรฐานระบบบริหารคุณภาพสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีการออกมาตรฐานเพื่อใช้ในควบคุมการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการทหาร ที่เรียกว่า NATO Quality Control System ซึ่งต่อมาทาง Quality Panel ของ UK Society of Motor Manufacturers ได้มีการนำมาปรับใช้สำหรับอุตสาหกรรมอื่นที่ไม่ใช่ทางการทหาร ก็คือ มาตรฐาน BS4891 ในปี 1972 จากนั้นในปี 1974 ก็ได้พัฒนามาเป็นมาตรฐาน BS5179 ที่เรียกว่า Operation and Evaluation of Quality Assurance Systems และเวอณ์ชั่นสุดท้ายก็คือ มาตรฐาน BS5750 ในปี 1979

ซึ่งมาตรฐาน BS5750 เป็นมาตรฐานที่ใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนามาเป็นมาตรฐานในตระกูล ISO 9000 ซึ่งมีการใช้เป็นครั้งแรกในปี 1987 และก็ได้รับการทบทวนและปรับปรุงใหม่มาเป็นมาตรฐาน ISO9001:2000 (Quality Management System–Requirements) สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่นำมาใช้กันอย่างยาวนาน จนถูกพัฒนามาเป็นมาตรฐาน IATF 16949 ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน

โดย โรงงานขนาดเล็ก ที่รับผลิตชิ้นส่วนยานยนต์นั้น จะต้องมีมาตรฐานตามข้อกำหนดตามมาตรฐาน IATF 16949 ดังต่อไปนี้

  • ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
  • การจัดการความเสี่ยงและแผนการรับมือ
  • ข้อกำหนดสำหรับซอฟต์แวร์ฝังในระบบ (Embedded Software)
  • การจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงและการรับประกัน
  • การจัดการกับซัพพลายเออร์ในระดับย่อย

ความสำคัญของการที่ โรงงานขนาดเล็ก ของคุณจะได้การรับรองมาตรฐาน IATF 16949 ก็คือช่วยให้บริษัทหรือโรงงานของคุณได้รับการยอมรับในฐานะผู้จัดหายานยนต์ รวมถึงผู้ผลิตยานยนต์ และผู้ผลิตชิ้นส่วน (OEM) ชั้นนำระดับโลก สามารถเข้าถึงตลาดโซ่อุปทานยานยนต์ระหว่างประเทศได้ง่าย เพราะผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำ จะร่วมงานกับบริษัทที่ได้รับมาตรฐาน IATF 16949 เท่านั้น ตามหลักนโยบายที่เน้นย้ำว่าผู้ผลิตจะต้องทำตามข้อกำหนดทางเทคนิคตามมาตรฐานได้อย่างเคร่งครัด นั่นเอง

นอกจากนั้นยังแสดงถึงความสามารถของ โรงงานขนาดเล็ก สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดที่มีความละเอียดเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างกระบวนการของการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในขับเคลื่อนคุณภาพและปรับปรุงองค์กรของคุณ โดยเน้นย้ำในเรื่องของการป้องกันความผิดพลาด และลดความหลากหลายและของเสียในห่วงโซ่อุปทาน เป็นต้น

มาตรฐานและการจัดการคุณภาพของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อื่นๆ ของหลายประเทศทั่วโลกที่ โรงงานขนาดเล็ก ควรรู้ มีดังนี้

  1. มาตรฐาน American QS 9000 : เป็นมาตรฐานที่ออกแบบโดยบริษัทยานยนต์ Chrysler, Ford Motor and General Motors ในประเทศอเมริกา เพื่อกำหนดให้พพลายเออร์ที่ดำเนินงานให้บริษัททั้งสามรายนี้เป็นไปตามมาตรฐานและคุณภาพตามเกณฑ์ที่ตัวเองกำหนด ซึ่งมาตรฐานนี้ได้ถูกพัฒนาให้เป็นต้นแบบของมาตรฐาน ISO9000 โดยมีการเพิ่มเติมข้อกำหนดเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งจะนำมาจากเอกสารคู่มือของรถยนต์แต่ละบริษัท ประกอบด้วย Supplier Quality Assurance Manual ของ Chrysler เอกสาร Q101 ของ Ford และ Target for Excellence ของ General Motor รวมถึงข้อกำหนดบางส่วนจากผู้ผลิตรถบรรทุก

  2. มาตรฐาน VDA 6.1 ของประเทศเยอรมัน : มาตรฐานนี้ได้รับการออกแบบร่วมกันโดยผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ระดับโลกอย่าง Mercedes, AUDI, Wolkwagen, Porsche และ BMW ในปี 1991 ซึ่งมาตรฐานนี้เกิดจากข้อบกพร่องของระบบการจัดการคุณภาพ ISO 9001 สำหรับภาคยานยนต์และผสมผสานมาตรฐานระดับชาติที่แตกต่างกันซึ่งใช้ในประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป ซึ่งไม่ใช่เพียงใช้เป็นมาตรฐานที่ใช้ภายในประเทศเยอรมนี แต่เป็นมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพยานยนต์ ที่นำมาใช้กับทุกประเทศในแถบยุโรป

    มาตรฐาน VDA 6.1 จะะกำหนดในเรื่องของ Internal Quality Audit คือการตรวจติดตามคุณภาพภายใน ซึ่งมาตรฐาน ISO9001:1994 และ QS-9000 จะกำหนดเป็นเรื่องของ Contract Review ก็คือการทบทวนข้อตกลง นอกจากนั้นก็ยังมีการกำหนดเพิ่มเติมในเรื่องของกลยุทธ์ขององค์กร (Corporate Strategy) ซึ่งจะครอบคลุมถึงการจัดทำแผนธุรกิจ (Business Planning) ไว้ด้วย

  3. มาตรฐาน EAQF 9000 ของประเทศฝรั่งเศส : บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของฝรั่งเศส ประกอบด้วย PSA Peugeot – Citroen และ Renault ได้ร่วมกันออกมาตรฐานที่เกี่ยวกับระบบการประกันคุณภาพสำหรับซัพพลายเออร์ ที่ชื่อว่า Référentiel d’Evaluation d’Aptitude Qualité Fournisseurs (EAQF) โดยเนื้อหาจะแบ่งเป็นข้อความของข้อกำหนดจะครอบคลุมทั้งในส่วนของมาตรฐาน ISO9001 และแนวทางในการนำไปประยุกต์ใช้สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ และปรับปรุงอีกครั้งในปี 1994เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของมาตรฐาน ISO9001 รวมถึงยังได้มีการนำเนื้อหาบางส่วนของมาตรฐาน VDA ของเยอรมนี มาเพิ่มเติมในมาตรฐานฉบับปรับปรุงนี้ด้วย

    ซึ่งเนื้อหาที่เพิ่มเติม จะครอบคลุมถึงส่วนของการพิจารณาด้านการเงิน (Financial) ที่เกี่ยวกับระบบคุณภาพ และการควบคุมความปลอดภัยที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ (Product Safety) เข้าไปด้วย การประเมินผลจะเป็นลักษณะของการให้คะแนนเช่นเดียวกับมาตรฐาน AVSQ เพื่อประเมินระดับของความสอดคล้องตามข้อกำหนด

  4. มาตรฐาน AVSQ 9000 ของประเทศอิตาลี : ได้รับการจัดทำโดย ANFIA ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ของอิตาลี ในชื่อ ANFIA Evaluation of Quality Systems–Guidance for use โดยจะประกอบด้วยชุดคำถาม (Checklist) และคู่มือการใช้งาน (User guide) ซึ่งในแต่ละคำถาม จะมีการระบุแนวทางการอธิบายความเพื่อให้เข้าใจได้มากขึ้น คำถามต่างๆ จะระบุในลักษณะคล้ายกับข้อกำหนด ทั้ง 20 ข้อกำหนดของมาตรฐาน ISO9001 โดยมีการเพิ่มเข้าไปอีก 2 เรื่องประกอบด้วย การพิจารณาทางด้านการเงิน (Financial) และความปลอดภัยที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ (Product Safety) การประเมินผลของแต่ละคำถาม จะเป็นลักษณะของการให้คะแนนตามความสอดคล้องของระบบ

 

และทั้งหมดนี้คือ มาตรฐานและการจัดการคุณภาพของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อื่นๆ ที่ โรงงานขนาดเล็ก ควรทราบไว้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจของคุณเพื่อให้สามารถมีศักยภาพทัดเทียมกับคู่แข่งต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งหากหากคุณกำลังมองหาฐานการผลิตแห่งใหม่ โครงการ ไพร์ม เอสเตท เรา ขายโรงงานขนาดเล็กพร้อมโซลูชั่นมากมายให้คุณเลือกเพื่อความเหมาะสมของธุรกิจคุณ อีกทั้งยังได้มาตราฐานและตั้งอยู่บนเส้นทางคมนาคมที่สะดวกสบาย สามารถขนส่งได้หลากหลายช่องทาง อีกทั้งยังอยู่บนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญระหว่างกรุงเทพมหานครและโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) สามารถขนส่งได้หลากหลายช่องทาง เพื่อตอบโจทย์การเติบโตของธุรกิจผลิตยานยนต์ทั้งการนำเข้าและส่งออกได้เป็นอย่างดี

 

สนใจดูรายละเอียดโครงการ โรงงานขนาดเล็ก, คลังสินค้า, โกดังพร้อมที่ดินทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์: www.primeestate.co.th
โทร : 063 663 6663
Facebook Inbox : m.me/PrimeEstateSME
Line: line.me/R/ti/p/@primeestate
Email : Sales@primeestate.co.th