โอกาสในการลงทุนทำโรงงานขนาดเล็ก ผลิตแบตเตอรี่ในไทยและภาพรวมตลาดโลก

หากคุณได้ติดตามข่าวเรื่องเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทยอยู่บ้างก็น่าจะพอทราบข่าวตั้งแต่ปลายปี 2565 ว่าประเทศไทยของเรากำลังจะมี 3 บริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศอย่าง บริษัท CATL, BYD และSVOLT เข้ามาลงทุนเพิ่มในประเทศไทยเพื่อให้ โรงงานขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ในประเทศได้ผลิตแบตเตอรี่ อะไหล่ชิ้นส่วนให้กับบริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นอกจากนั้น ก็ยังมีบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่สนใจเข้ามาลงทุนในบ้านเราเพิ่มมากขึ้น เพราะไทยมีดีมานด์จากผู้ผลิตหลายรายที่เข้ามาลงทุน เช่น ฉางอัน ออโตโมบิล เพราะแระเทศของเรามีแนวโน้มที่จะมีปริมาณผลิตรถ EV ในประเทศเพิ่มมากขึ้นด้วยนั่นเอง

โดยมาตรการสนับสนุนการลงทุนตั้ง โรงงานขนาดเล็ก และขนาดใหญ่เพื่อแบตเตอรี่ในประเทศนั้น ถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นจำเป็นต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่มาพิจารณา ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าการเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ไม่น่าจะมีผลอะไรมากกับนักลงทุนชาวไทยและนักลงทุนต่างประเทศ เพราะในขณะนี้เมื่อ 3 บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าตัดสินใจเข้าในลงทุนเพื่อให้เราเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้เราสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ผลิตแบตเตอรี่ทั่วโลก เพราะ Value Chain ของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่มีมูลค่าสูงมากขึ้น นั่นเอง

ปัจจัยอะไรบ้าง? ที่ถือว่าเป็นโอกาสในการลงทุนทำโรงงานขนาดเล็ก ผลิตแบตเตอรี่ในไทย

1. 3 บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ EV ระดับโลกกำลังจะเข้ามาลงทุนให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตอีกแห่งหนึ่ง : ได้แก่
   
   
   • บริษัท Contemporary Amperex Technology หรือ CATL เป็นบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ EV สัญชาติจีน ที่ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งของโลก โดยมีลูกค้าหลักเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับโลก อาทิ BMW, Honda, Toyota, Volkswagen, Peugeot, Volvo รวมทั้งโรงงานผลิต Tesla ในเซี่ยงไฮ้
     
     
   • บริษัท BYD คือบริษัทผู้รถยนต์ไฟฟ้าและยังเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่นวัตกรรม Blade Battery ที่เป็นแบตเตอรี่รูปทรงใบมีดที่สามารถให้ระบายความร้อนได้ดีและกักเก็บพลังงานได้สูง ครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในอันดับ 3 ของโลก ที่นอกจากจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ให้แบรนด์ของตนเองแล้ว ยังผลิตให้ Ford และ Tesla ในจีน ที่สำคัญคือเป็นบริษัทที่วอร์เรน บัฟเฟต์ นักลงทุนระดับโลกถือหุ้นอยู่ด้วย!
     
     
   • บริษัท SVOLT (เอสวอลต์) เป็นบริษัทผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ในเครือบริษัท Great Wall Motor เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากจีน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ เป่าติ้ง มณฑลเหอเป่ย โดยมีสำนักงานภูมิภาคที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่อันดับที่ 10 ของโลก
     
     
2. มีมาตราการสนับสนุนจากภาครัฐบาลหลากโครงการ : นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ครม. เดิม) ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับสื่อหลายสำนักว่า มาตรการสนับสนุนลงทุนตั้งโรงงานแบตเตอรี่ ยังต้องใช้เวลาในการเจรจาแต่หากมีมาตรการออกมาเร็วได้ก็ยิ่งดีต่อการลงทุน ส่วนมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมอย่าง โครงสร้างพื้นฐานหรือสถานีอัดให้เพียงพอต่อการใช้งานที่ในอนาคตจะมีมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีสัดส่วน 1 หัวชาร์จ ต่อ รถ 16 คัน 
   
   หากจะพูดถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า EV นั้นถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของอุตสาหกรรมยานยนต์และการผลิตชิ้นส่วนของไทย ทั้ง โรงงานขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ เพราะ Ecosystem ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า EV นั้นไม่ใช่มีแค่เรื่องรถยนต์ แต่ยังมีระบบอื่นๆ ที่ต้องใช้เป็นส่วนประกอบของรถยนต์ EV โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเทคโนโลยีเรื่องแบตนั้นก็ได้รับความสนใจจากการลงทุนของกลุ่มเอกชนหลายราย โดยคณะรัฐมนตรีก็ยังมีมาตรการที่คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าด้านอุปทาน (Supply), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้เปิดให้การส่งเสริมการลงทุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและการผลิตชิ้นส่วน 17 ชิ้น รวมทั้งการผลิตแพลตฟอร์มสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า
   
   โดยมีรายละเอียดของผู้ที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicle: BEV) จำนวน 15 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 2.77 หมื่นล้านบาท ผู้ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า จำนวน 77 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 1.84 หมื่นล้านบาท นอกจากนั้น ก็ยังมีบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ได้ลงนามความร่วมมือ (MoU) กับ EVE Energy Co., Ltd. (EVE) และ Sunwoda Mobility Energy Technology Co., Ltd. (Sunwoda) ซึ่งเป็น 2 พันธมิตรผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีน ที่สนใจการขยายตลาดแบตเตอรี่ในไทย เพื่อร่วมศึกษาและจัดตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่กำลังผลิตเริ่มต้นที่ 6 GWh ในประเทศไทย
   
   
3. ความต้องการรถไฟฟ้า EV ของผู้บริโภคทั่วโลก มีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ : ในปี 2565 โรงงานขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ที่เป็นอุตสาหกรรมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจากทั่วโลก มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 56,400 ล้านดอลลาร์ และแน่นอนว่าในปีนี้ 2566 และในอนาคตอันใกล้ แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคและการผลิตจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ได้ประเมินความสำเร็จของมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์จะเติบโตอย่างต่อเนื่องที่อัตรา 19.9% ต่อปี และจะมีการจดทะเบียน ยานยนต์ไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้นที่ 260%
   
   และตั้งแต่เปิดปี 2566 เป็นต้นมา คนไทยนิยมใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี (BEV) ซึ่งข้อมูลจากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยได้ระบุไว้ว่าในประเทศไทยนั้นได้มีการจดทะเบียนไปแล้ว 49,952 คัน เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปีที่แล้ว หรือประมาณ 20,815 คัน นอกจากนั้น สำนักข่าว Reuters ก็ยังได้รายงานว่าในปี 2566 นี้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน

ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ถือเป็นโอกาศสำหรับของ โรงงานขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ของไทยที่เป็นอุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรี่ ที่น่าจะได้รับผลกระทบเชิงบวก จากเทรนด์สำคัญของโลกอย่างการหันมาใช้และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่มีแนวโน้มว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งในปีนี้และอนาคตอันใกล้นี้ และไม่ว่าคุณกำลังมองหาการขยายฐานการผลิตแห่งใหม่

โครงการ ไพร์ม เอสเตท เรา ขายโรงงานขนาดเล็ก, คลังสินค้า หรือโกดังพร้อมที่ดิน พร้อมโซลูชั่นมากมายให้คุณเลือกเพื่อความเหมาะสมของธุรกิจคุณ อีกทั้งยังตั้งอยู่บนเส้นทางคมนาคมที่สะดวกสบาย สามารถขนส่งได้หลากหลายช่องทาง อีกทั้งยังอยู่บนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญระหว่างกรุงเทพมหานครและโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) สามารถขนส่งได้หลากหลายช่องทาง เพื่อตอบโจทย์การเติบโตของธุรกิจผลิตยานยนต์ทั้งการนำเข้าและส่งออกได้เป็นอย่างดี

สนใจดูรายละเอียดโครงการ โรงงานขนาดเล็ก, คลังสินค้า, โกดังพร้อมที่ดินทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์: www.primeestate.co.th
โทร : 063 663 6663
Facebook Inbox : m.me/PrimeEstateSME
Line: line.me/R/ti/p/@primeestate
Email : Sales@primeestate.co.th