เทรนด์อุตสาหกรรมอาหารในโรงงานขนาดเล็ก ที่น่าจับตามองในอนาคต

เมื่อความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โรงงานขนาดเล็ก ที่เป็นอุตสาหกรรมอาหารต้องปรับตัวอย่างไร

โรงงานขนาดเล็ก

ในแต่ละปีสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ การอัพเดทและทำความเข้าใจว่ามีเทรนด์เทคโนโลยีหรือพฤติกรรมความชอบความสนใจของผู้บริโภคใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงพัฒนา โรงงานขนาดเล็ก ที่อุตสาหกรรมผลิตอาหารของตนเองให้มีประสิทธิภาพและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที ซึ่งในปี 2024 นี้มีการขับเคลื่อนของเทคโนโลยีและความต้องการของบริโภคที่สำคัญ โดยไม่ใช่แค่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม แต่ยังรวมไปถึงอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก เช่น การสร้างความสะดวกสบายจากเทคโนโลยี AI และ Robot,การร่วมมือร่วมใจในการทำธุรกิจและการบริโภคเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน รวมไปถึงความใส่ใจเรื่องของสุขภาพมากขึ้นของผู้บริโภค ฯลฯ

เทรนด์อุตสาหกรรมอาหารที่ โรงงานขนาดเล็ก ต้องจับตามองในปี 2024 มีดังนี้

  1. อาหารเสริมทนแทน และ Vegan Food : ในปัจจุบันผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มตระหนักถึงการรับประทานอาหารให้เป็นยา! การมองหาเหล่าอาหารทดแทนโปรตีน, วิตามิน, ธาตุหรือไฟเบอร์ต่างๆ เริ่มเป็นที่ต้องการในตลาดของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม มีการพัฒนาเทคโนโลยีในการสร้างผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ, การพัฒนาและผลิตอาหารทดแทนที่มีรสชาติและคุณภาพเทียบเท่ากับอาหารจริง เช่น แป้งจากพืชต่างๆ หรือผลิตภัณฑ์ Plant Based ต่างๆ ให้มีรสชาติและหน้าตาคล้ายกับเนื้อสัตว์

    ขอบคุณภาพจาก statista.com


    ยอดขายทั่วโลกของผลิตภัณฑ์ "เนื้อสัตว์จากพืช" คาดว่าจะเติบโตเป็นกว่า 35 พันล้านดอลลาร์ในปี 2570 (ที่มา statista.com) เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ความนิยมเพิ่มขึ้นก็คือ ผู้คนกำลังมองหาอาหารที่จะช่วยเรื่องสุขภาพของตนเองให้ดีขึ้น นอกจากนั้นก็ยังพบว่า Gen Z ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในยุคนี้มีความกังวลเรื่องสุขภาพมากกว่า Generation ก่อนๆ

    ฉะนั้น โรงงานขนาดเล็ก ที่เป็นอุตสาหกรรมผลิตอาหารต้องเร่งพิจารณาเทรนด์ของอาหารทดแทนดังกล่าวเหล่านี้ มาเป็นตัวเลือกที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคก็น่าจะช่วยเพิ่มยอดขายหรือเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้ธุรกิจของคุณได้ ดังเช่นแบรนด์ดังระดับโลกของ Fast Food อย่าง KFC หรือ Burger King ก็มีการเพิ่มเมนู Plant Based หรือเมนูมังสวิรัสเข้าไปเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค หรือแม้กระทั่ง Nestlé ก็มีการทำทูน่าวีแกนที่ชื่อ Vuna เป็นต้น

  2. ยังคงความยั่งยืนในการเกษตร : การใช้เทคโนโลยีในการเกษตรที่ยั่งยืนกำลังเป็นที่สนใจในอุตสาหกรรมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้น้ำ, ลดปริมาณสารเคมีและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต จึงมีการพัฒนาระบบเกษตรอัจฉริยะช่วยในการควบคุมการให้น้ำและปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งในปี 2024 นี้การทำเกษตรแนวตั้ง Vertical Farm และระบบ Robot Farm กำลังเป็นเทรนด์ฮิตที่สำคุณสำหรับ โรงงานขนาดเล็ก ที่เป็นอุตสาหกรรมผลิตอาหารจับต้องจับตามองให้ดีๆ

    Vertical Farm หรือการเกษตรแนวตั้งคืออะไร?
    คือการทำการเกษตรและการปลูกพืชที่มีลักษณะเป็นชั้นวางซ้อนกันขนาดใหญ่ มักอยู่ในโกดังมีหลังคาสูง มีการให้น้ำ อาหาร และแสงโดยการควบคุมจากมนุษย์ ซึ่งเป็นการปลูกพืชโดยไม่ต้องกังวลเรื่องฤดูกาลหรือสภาพแวดล้อมที่อาจไม่อำนวยต่อการเพาะปลูกพืชนั้นๆ ทำให้เรามีผักผลไม้จำหน่ายและบริโภคได้ตลอดปีอย่างเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค การทำ Vertical Farm ในอนาคตอันใกล้เป็นการผสมผสานความก้าวหน้าของ หุ่นยนต์, ชีววิทยาและเคมีเข้าด้วยกัน เพื่อการปรับปรุงการทำฟาร์มที่เหนือกว่าแบบดั้งเดิม

    ตัวอย่างของบริษัทและ โรงงานขนาดเล็ก ที่เกี่ยวข้องกับการทำฟาร์มแนวตั้ง ได้แก่ Plenty สตาร์ทอัพการทำฟาร์มแนวตั้งในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย Jeff Bezos และรวมถึงอดีตผู้มีความสามารถด้านวิศวกรรมของ Tesla ด้วย, บริษัท AeroFarms ซึ่งดำเนินกิจการฟาร์มแนวตั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในเนื้อที่ 70,000 ตารางฟุตที่ผลิตผักใบเขียวได้มากถึง 2 ล้านปอนด์ต่อปี หรือ Unfold ที่เปิดตัวในปี 2563 ด้วยเงินทุน 30 ล้านดอลลาร์ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาพันธุ์ผลิตผลใหม่ที่มีชีววิทยาที่เหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับการทำ Vertical Farm เป็นต้น

  3. ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม : เพราะผู้บริโภคในยุคปัจจุบันกำลังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ทั้งในเรื่องของวัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์, วิธีและกระบวนการผลิต, การส่งเสริมความยั่งยืนในการทำเกษตรและการพัฒนาวิธีการผลิตอาหารที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ต่ำ ซึ่งบริษัทและ โรงงานขนาดเล็ก ที่เป็นอุตสาหกรรมผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่มีนโยบายความรับผิดชอบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ จะได้มีโอกาสในการได้รับการยอมรับจากลูกค้ากลุ่มที่ใส่ใจกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมได้นั่นเอง

  4. การใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ผู้บริโภค : ยิ่งนโยบายของรัฐบาลที่มีมาหลายสมัยในเรื่องของการสนับสนุนและผลักดันเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมผลิตอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้บริโภคในประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตลดสูญเสียและลดการใช้ทรัพยากรต่างๆ ฯลฯ ซึ่งในปี 2024 นี้เราน่าจะได้เห็นเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ามามีบทบาทในทุกขั้นตอนของการผลิตและบริโภคอาหารแบบ(end-to-end traceability) หรือการใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (virtual reality) หรือเทคโนโลยีเพื่อสร้างประสบการณ์การทานอาหารที่น่าทึ่ง

    เพื่อทำให้ผู้บริโภคสามารถติดตามแหล่งกำเนิดของอาหารได้ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตถึงการจัดจำหน่าย หรือการใช้หุ่นยนต์และ AI ใน โรงงานขนาดเล็ก ของกระบวนการทำอาหารทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดความขาดทุนของธุรกิจได้

    มีตัวอย่างของการใช้ผู้ช่วยหุ่นยนต์ในครัว (Robot Kitchen Assistants) ของบริษัท Miso Robotics เป็นบริษัททางเทคโนโลยีที่มีฐานะในแวดวงการอาหารและเซอร์วิสด้านร้านอาหาร ที่สร้าง “Flippy” หุ่นยนต์ทำอาหาร โดยออกแบบมาเพื่อทำงานในสถานที่ร้านอาหาร Flippy มีความสามารถในการทำงานที่ต้องการความแม่นยำและความรวดเร็ว เช่น การทอดหรือทำอาหารที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิแน่นอ นอกจากนี้ Miso Robotics ยังพัฒนาเทคโนโลยีในด้านการใช้ AI ในการจัดการและควบคุมกระบวนการทำอาหารในร้านอาหาร เพื่อลดความผิดพลาดละลดความสูญเสียในกระบวนการทำอาหาร โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพใน โรงงานขนาดเล็ก ของอุตสาหกรรมอาหารด้วยเทคโนโลยีโรบอตและปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยลดความล่าช้าและประสิทธิภาพในการทำงานในร้านอาหาร

  5. อาหารกลายเป็นหมวดสุขภาพ : ตั้งแต่โลกของเราต้องเผชิญกับโรคระบาดรุนแรง เทรนด์ของเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญ เพราะผู้บริโภคตั้งใจจะสุขภาพที่ดีมากขึ้นในอนาคต ฉะนั้น โรงงานขนาดเล็ก ที่เป็นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่จะประสบความสำเร็จและชนะใจผู้บริโภคในยุคนี้ได้ จะต้องพัฒนาสินค้าของตนเองให้ตอบโจทย์เรื่องสุขภาพของผู้บริโภคได้ นั่นเอง

    การสำรวจด้านอาหารและสุขภาพปี 2020 จากสภาข้อมูลอาหารระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่า 54% ของผู้บริโภคกล่าวว่าสุขภาพที่ดีเกิดจากการรับประทานอาหารที่ดีและมีความสำคัญมาก เช่น การรับประทานอาหารที่มีพืชเป็นหลัก ชวยทำให้ร่างกายลดการอักเสบและลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และการเจ็บป่วยอื่นๆ ได้

    ยอดขายอาหารที่ทำจากพืชในร้านขายของชำเติบโตเร็วกว่ายอดขายอาหารโดยรวมเกือบสองเท่า ในอัตรา 27% ในปี 2020 และผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ เกือบ 20% ซื้อโปรตีนจากพืชในช่วงที่เกิดโรคระบาด และกล่าวว่าพวกเขาจะซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านั้นต่อไป (ที่มา: https://www.fooddive.com/news/consumer-trends-shifting-toward-health-and-wellness-adm-finds/584388/) นอกจากนั้น เรายังเห็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นในบริษัทต่างๆ ที่ทำการตลาดอาหารเพื่อสนับสนุนสุขภาพจิต ตัวอย่างเช่น Mindright ผลิตสุดยอดอาหารอารมณ์ดีในสแน็คบาร์ ที่มีโสมช่วยบำรุงสุขภาพจิต โดยเทรนด์ของอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพดีจะกลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสนใจซื้อมากขึ้น ดังนี้

    • เครื่องดื่มหมักเพื่อช่วยในการขับถ่ายจะได้รับความนิยมมากขึ้น : การค้นหาคำว่า "สุขภาพลำไส้" ของ Google เพิ่มขึ้นเกือบ 700% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เพราะผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพลำไส้ และทราบว่าบรีไบโอติกและโพรไบโอติกมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะการปรับปรุงสุขภาพลำไส้ และก็ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านจุลชีพ การดูดซึมวิตามินแร่ธาตุดีขึ้น และช่วยระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น เป็นต้น นอกจากนั้น Kombucha ซึ่งเป็นเครื่องดื่มชาหมักรสเปรี้ยวมีต้นกำเนิดในจีน รัสเซีย และยุโรปตะวันออก แต่ในสหรัฐอเมริกาเป็นกลุ่มสินค้าในร้านขายของชำที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในทศวรรษที่ผ่านมา โดย Mordor Intelligence คาดว่าในอีก5 ปีข้างหน้าตลาดของคอมบูชะจะเติบโตที่ 9.48%

    • เห็ดกลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค : เห็ดเป็นส่วนผสมหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มคาดว่าจะแพร่หลายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าใน โรงงานขนาดเล็ก และใหญ่ทั่วโลก เพราะสารพัดประโยชน์ของเห็ดนั้นมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพหลายชนิด และสามารถนำไปรวมกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น โปรตีน ของขบเคี้ยว เครื่องเทศ และเครื่องปรุงรสได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังเป็นส่วนเสริมตามธรรมชาติของเทรนด์การรับประทาน Plant Based หรือ Vegan Food

      ระหว่างปี 2019 ถึง 2020 ยอดขายเห็ดเพิ่มขึ้น 20% เป็น 40% ตามรายงานของ VegNews มีรายงานฉบับหนึ่งระบุว่าผู้บริโภค 1/4 วางแผนที่จะกินเห็ดมากขึ้นในปีนี้ และอีก 63% วางแผนที่จะรับประทานเห็ดในปริมาณเท่าๆ กับปีที่แล้ว นอกจากการปรุงอาหารโดยใช้เห็ดที่บ้านแล้ว ผู้คนยังรับประทานเห็ดในร้านอาหารเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่ง MadeGood บริษัทบาร์กราโนล่าใช้เห็ดหอมเพื่อเพิ่มเป็นของว่าง หรือ Laird Superfood ยังผลิตผลิตภัณฑ์มีที่มีเห็ดผสมถั่งเช่าและและเห็ดไมตาเกะ ที่สามารถเพิ่มลงในกาแฟ ชา หรือสมูทตี้ได้

ทั้งหมดนี้คือแนวโน้มของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกในปี 2024 ที่โรงงานขนาดเล็ก และใหญ่ที่เป็นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มจะต้องอัพเดตข้อมูลเหล่านี้เพื่อให้นำไปเป็นแนวทางในการกำหนดทิศทางของธุรกิจในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไปได้ โดย ไพร์ม เอสเตท ก็จะคอยค้นหาข้อมูลและอัพเดทความรู้ใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ธุรกิจของคุณได้อย่างสม่ำเสมอ

และหากคุณกำลังมองหาโรงงาน โกดังหรือคลังสินค้าที่อยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่เป็นพื้นที่โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) โครงการ ไพร์ม เอสเตท เรา ขายโรงงานขนาดเล็ก, คลังสินค้า หรือโกดังพร้อมที่ดิน หลให้คุณเลือกตามความเหมาะสมของธุรกิจคุณ และตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญระหว่างกรุงเทพมหานครและ EEC ที่สามารถขนส่งได้หลากหลายช่องทาง เพื่อความสะดวกในการนำเข้าและส่งออกได้เป็นอย่างดี

 

สนใจดูรายละเอียดโครงการ โรงงานขนาดเล็ก, คลังสินค้า, โกดังพร้อมที่ดินทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์: www.primeestate.co.th
โทร : 063 663 6663
Facebook Inbox : m.me/PrimeEstateSME
Line: line.me/R/ti/p/@primeestate
Email : Sales@primeestate.co.th